มิลเนอร์โพสต์ไอจี “วีเออาร์” ทำให้เริ่มหมดรักเกมบอล

มิลเนอร์โพสต์ไอจี “วีเออาร์” ทำให้เริ่มหมดรักเกมบอล

มิลเนอร์โพสต์ไอจี  แข้งสารพัดประโยชน์ของ หงส์แดง ระบายความรู้สึกใน อินสตาแกรม ส่วนตัว โดยกล่าวว่า วีเออาร์ เริ่มทำให้เสน่ห์บอลหายไป

มิลเนอร์โพสต์ไอจี หงส์แดง ทำคะแนนตกภายหลังจากเสียท่าเสียจุดลูกโทษให้กับ ไบรท์ตัน ในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บ โดย วีเออาร์ เรียกให้ผู้ตัดสินกลับไปดูภาพย้อนไปจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปสะกิดขา ดินแดนนี่ เวลเบ็ค แผงหน้าของ “เดอะ ซีกัลส์” ทำให้จบเกมเท่ากันไป 1-1 บ้านผลบอลพรุ่งนี้

มิลเนอร์โพสต์ไอจี

ข้างหลังจบเกม เจมส์มิลเนอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บรอบๆแฮมสตริง จนกระทั่งจะต้องถูกสลับตัวออก ได้โพสต์รูปพร้อมข้อความผ่าน อินสตาแกรมส่วนตัวในเชิงที่ว่า วีเออาร์ทำให้ความหลงรักในเกมบอลเริ่มจางไป

“มัน-ชัดเจนและแจ่มแจ้งเลย- พวกเราจำเป็นต้องมานั่งถกกันเรื่อง วีเออาร์แล้วล่ะ แน่ๆ ไม่ใช่ผมผู้เดียวกันที่รู้สึกเหมือนกันว่าความรักในเกมบอลมันลดลงไปจากสถานะในตอนนี้”

ด้าน หลุยส์ การ์เซีย สมัยก่อนแข้งคนที่ใครๆก็รู้จักของ “ลิเวอร์พูล” ก็คอมเมนต์ตอบในไอจีของ ไม่ลเนอร์ เชิงหงุดหงิดว่า “ขนาดดูที่บ้านยังน่ารำคาญขนาดนี้ คิดไม่ออกว่าเลยถ้าเกิดอยู่ในสนามจะรำคาญแค่ไหน!!”

อย่างไรก็ตามอาจจะมีไม่มากเท่าไรนักที่จะรู้ดีว่าจอมบุกวัย 34 กะรัตคนนี้เป็นลูกหม้อขนานแท้ของสมาพันธ์ “ลีดส์ยูไนเต็ด” โดยค้าหน้าแข้งให้กับสมาคมที่นี้มาตั้งแต่ยุคเยาวชน จนถึงได้ขึ้นสู่ชุดใหญ่ ก่อนที่จะโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงตลอด 2 ฤดู จนกระทั่งถูก นิวคาสเซิลยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมกองทัพ

มิลเนอร์โพสต์ไอจี

ถึงจะค้าแข้งที่ ลีดส์ ยูไนเต็ดตรงเวลาไม่นาน แม้กระนั้นสำหรับตัวของ มิลเนอร์ ชความรักที่มีต่อชมรมที่แรกในชีวิตของเขานั้นยิ่งใหญ่ และไม่เคยเปลี่ยน ยิ่งใหญ่เสียจนถึงกาลครั้งหนึ่งเขาเคยไม่ยอมรับจังหวะที่หาไม่ได้อย่างง่ายๆอย่างการร่วมสมาพันธ์ “แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด”

จุดเริ่มความรักระหว่าง เจมส์ มิลเนอร์กับสมาคม ลีดส์ยูไนเต็ด ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนกว่าการที่เขากำเนิดและก็เติบโตตรงนี้ เป็นเด็กเมือง ลีดส์ในเชื้อสาย นอกเหนือจากนี้ครอบครัวของเขาก็เป็นแฟนบอลลีดส์เกือบทั้งหมด ถึงขนาดที่ว่าเป็นลูกค้าประจำซื้อตั๋วปีทุกฤดู

ด้วยเหตุดังกล่าว มิลเนอร์ ก็เลยคลุกคลีกับชมรมที่นี้มาตั้งแต่จำความได้ โดยทีแรกที่เขาได้โอกาสได้มองลีดส์ยูไนเต็ด ลงสู่สนามกระทำชิงชัยนั้นเกิดขึ้นในปี 1993 ซึ่งในตอนนั้นเขาแก่เพียงแต่ 7 ปี

จากนั้น มิลเนอร์ ก็เริ่มติดตามครอบครัวเข้าไปเป็นขาประจำในสนาม เอลแลนด์ โร้ด ด้วยอีกคน แล้วก็เมื่ออายุครบ 10 ปี ความเกี่ยวพันของ ไม่ลเนอร์ กับชมรมที่นี้ก็ปรับปรุงขึ้นไปอีกขั้น จากแฟนบอลปกติ เขาก็ได้เข้าสู่อคาเดมีสมาคม เปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลเยาวชนฝึกฝน

ทุกสิ่งๆปรับปรุงขึ้นเป็นลำดับ แต่ว่าสำหรับตัวของ ไม่ลเนอร์ นั้น เขาพัฒนาต่อไปได้เร็วทันใจกว่าผู้อื่นอย่างชัดเจน ด้วยเหตุว่าเขาได้รับจังหวะสนับสนุนขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่อย่างเร็ว และก็ได้เปิดฉากสนามในสังเวียนพรีเมียร์ลีกคราวแรกด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปี กับ 309 วัน (นับเป็นผู้เล่นอายุน้อยเป็นชั้น 2 ที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกในตอนนั้น ด้อยกว่าเพียงแค่ เจมส์ วอห์น กับสถิติ 16 ปี 297 วัน แต่ว่าตอนนี้มีผู้เล่นที่อายุต่ำที่สุดที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต จากชมรม หงส์แดง ด้วยสถิติ 16 ปี กับ 30 วัน)

“ผมยังนึกออกในตอนที่บิดาผมเอาผลจากการสอบ GCSE (การสอบระดับชั้นมัธยมของอังกฤษ) มาให้ผมที่สนามฝึกซ้อมได้อยู่เลย รวมทั้งจากนั้นไม่กี่เดือนผมก็ได้ลงเล่นให้กับกลุ่มชุดใหญ่”

“เวลานี้ผมมีโปรแกรมไปที่ประเทศสกอตแลนด์กับกลุ่มลีดส์ ยูไนเต็ดชุด U-19 แต่ว่าอยู่ๆก็โดนเรียกตัวกลับทันควัน ทีแรกๆผมยังคิดอยู่เลยว่าตนเองทำอะไรไม่ถูกหรือไม่ ก่อนที่จะคณะทำงานสตาฟฟ์ผู้ฝึกสอนจะบอกกับผมว่า ‘ไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจ ฤดูนี้เอ็งได้เล่นบอลมากยิ่งกว่าเดิมแน่’”

ชีวิตของ เจมส์ มิลเนอร์ ในวัย 16 นั้นราวกับทั้งหมดทุกอย่างกำลังเดินทางไปได้งาม เขาเป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดของลีดส์ ยูไนเต็ด มีแววว่าจะขึ้นมาเป็นอย่างยิ่งหลักให้กับกลุ่มได้ในอนาคต รวมทั้งที่สำคัญที่สุดเป็นการได้ลงเล่นให้กับสมาพันธ์ที่เขาหลงใหลมาตั้งแต่เด็ก เหนือกว่าทุกด้าน

ถ้าใครได้ติดตามบอลพรีเมียร์ลีกในตอนสมัยปลาย 90’s ถึงต้น 2000’s อาจจะคงจะเพียงพอคิดออกว่าลีดส์ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทำผลงานได้อย่างรุนแรง ถึงจะไม่เคยคว้าชัยชนะ พรีเมียร์ ลีก แม้กระนั้นก็จบฤดูด้วยการคว้าตั๋วไปเล่นรายการชิงชัยระดับทวีปได้เกือบทุกครั้ง และก็นอกเหนือจากนี้ในรายการชิงชัยระดับทวีปพวกเขาก็ทำผลงานได้ดิบได้ดีไม่แพ้กัน รับประกันด้วยการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

อย่างไรก็ดีต่อไปไม่นาน ทุกๆอย่างก็กลับกัน ด้วยแนวทางการคลังที่บกพร่อง ทำให้ลีดส์ ยูไนเต็ด เผชิญกับปัญหาทางด้านการเงินอย่างมาก พวกเขาจำต้องขายบรรดานักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ประจำกลุ่มออกไปเพื่อประคองสถานะของสมาพันธ์ให้อยู่รอด สิ่งที่ตามมาเป็นผลงานที่เคยดีก็เริ่มเสื่อมถอย ตราบจนกระทั่งฤดู 2003-04 ฝันร้ายก็มาเยี่ยมถิ่น เอลแลนด์ โร้ด เมื่อลีดส์ ยูไนเต็ดตกชั้นสู่ ลีก แชมเปี้ยนชิพ

จากสถานะด้านการเงินที่ตกต่ำอยู่แล้ว ก็ยิ่งห่วยแตกเข้าไปอีก เพราะเหตุว่ารายได้ของลีกสองระดับนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้ ลีดส์ ยูไนเต็ดจำเป็นต้องเร่ขายนักฟุตบอลออกเพื่อหารายได้เข้าชมรมอีกที แล้วก็ท้ายที่สุดก็ถึงคิวของ เจมส์ มิลเนอร์

“แต่ ผมรู้เรื่องเหตุการณ์ของสมาคมอย่างดีเยี่ยม พวกเขากำลังประสบปัญหาเรื่องการเงิน ผมจะต้องเติบโตและก็รู้เรื่องสิ่งกลุ่มนี้ ในขณะนั้นมีนักเตะหลายท่านที่โดนราวกับผม ผมศึกษาแนวทางต่อกรจากพวกเขา โน่นทำให้ผมต่อกรกับทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างเร็ว”

“การย้ายกลุ่มคราวนี้ถูกสำหรับทุกฝ่าย ผมได้มีส่วนช่วยสมาพันธ์ที่ผมรัก นอกจากนั้นนิวคาสเซิลก็เป็นสมาพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ ผมจะได้เล่นร่วมกับยอดเยี่ยมผู้เล่นอย่าง อลัน เชียเรอร์”

“ผมเพียงแค่เสียดายที่ผมไม่ได้เล่นให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด นานกว่านี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังไงมันก็เป็นความทรงจำที่ดี”